อาการหมาหายใจแรงนั้นนับเป็นอาการปกติหากเกิดระหว่างและหลังจากการเล่นของสุนัข แต่หากเกิดขึ้นตอนสุนัขกำลังพักผ่อน หรือเวลาอื่นๆ นั่นอาจหมายถึงสุนัขกำลังขาดออกซิเจนก็เป็นได้ เจ้าของควรศึกษาอาการหายใจแรงเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมหากน้องหมามีอาการผิดปกติ ซึ่งต้องดูแลรักษาอย่างไร อาการแบบไหนต้องพบแพทย์ทันที ตามมาอ่านกันได้เลย
9 สาเหตุที่ทำให้น้องหมาหายใจแรง
เนื่องจากสุนัขไม่ได้ระบายความร้อนด้วยเหงื่อเหมือนคน แต่ใช้การหอบหายใจเป็นวิธีระบายความร้อนแทนเมื่อออกกำลังกายมาเหนื่อยๆ หรืออยู่ในอากาศร้อน ยิ่งน้องหมาพันธุ์เฟรนช์บูลด็อก และปั๊ก ก็จะมีอาการหอบหายใจหนักกว่าพันธุ์อื่นๆ เนื่องจากมีใบหน้าที่สั้นกว่า อย่างไรก็ดี หากน้องหมาหายใจแรงโดยที่ไม่ได้ออกกำลังกายหรือร้อน อาจเกิดจากสาเหตุดังนี้
1. ฮีทสโตรก
ฮีทสโตรกเป็นอาการที่มักทำให้สุนัขหายใจแรง โดยเฉพาะหลังสุนัขที่ใบหน้าสั้น น้องหมาจะมีอาการหายใจแรง ตาลอย อ่อนแรง หัวใจเต้นแรง น้ำลายไหล ชัก อาเจียน ท้องเสีย ตัวร้อน
2. ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
อย่างเช่น โรคหลอดลมอักเสบชนิดเรื้อรัง สายเสียงอัมพาต ปอดบวม เนื้องอกที่ปอด ฯลฯ ทั้งหมดนี้อาจทำให้น้องหมาหายใจลำบาก และหายใจแรงได้
3. หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
สุนัขจะแสดงอาการคล้ายๆ กับมนุษย์ อย่างเช่นหายใจลำบาก ออกกำลังกายได้น้อยลง และไอ
4. โรคหัดสุนัข
นอกจากหายใจแรงแล้ว เมื่อเป็นโรคหัดสุนัขน้องหมาจะมีอาการไข้ น้ำมูกไหล มีขี้ตา หมดแรง ไอ จาม ท้องเสีย อาเจียน ไม่อยากอาหาร รวมไปถึงอาการผิดปกติทางประสาท และที่สำคัญคือจะมีอาการบวม ทำให้ได้ชื่อเล่นของโรคว่า Hard Pad Disease หรือ โรคอุ้งเท้าแข็ง
5. กลุ่มอาการคุชชิ่ง
หรือภาวะความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ เกิดขึ้นเมื่อต่อมหมวกไตผลิตคอร์ติซอลออกมามากเกินไป ซึ่งทำให้น้องหมาหายใจแรง หิวผิดปกติ หิวน้ำ ฉี่บ่อย ขนร่วง ท้องบวม ฯลฯ
6. โลหิตจาง
เมื่อเม็ดเลือดแดงของน้องหมาลดลง การส่งออกซิเจนไปทั่วร่างกายก็แย่ตามไปด้วย นี่อาจนำไปสู่อาการขาดออกซิเจนได้ ทำให้น้องหมาต้องหายใจแรงขึ้นเพื่อให้ได้รับออกซิเจนเพียงพอ
7. อาการบาดเจ็บ
น้องหมาไม่อาจบอกเราได้ว่ากำลังบาดเจ็บตรงไหน แต่การหอบหายใจแรงจะเป็นหนึ่งในอาการที่ช่วยให้เราพบว่าน้องหมากำลังเจ็บได้ นอกจากนี้สุนัขยังอาจจะมีอาการรูม่านตาขยาย, ไม่อยากอาหาร, ไม่ยอมนอน, พักผ่อนไม่พอ, วิตกกังวล และเลียหรือกัดบริเวณแผล
8. ผลข้างเคียงจากยา
ยาบางชนิดอย่าง prednisone อาจทำให้น้องหมาหายใจแรงได้ หากพบว่ามีอาการหลังทานยา ให้ปรึกษาสัตวแพทย์
9. อาการอื่นๆ ที่ทำให้สุนัขหายใจแรง
นอกจากอาการที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ก็ยังมีอาการต่างๆ ที่ทำให้น้องหมาหายใจแรง เช่น การได้รับการพิษ, มีของเหลวเข้าไปในปอดหรือโพรงในปอด, ภาวะไข้น้ำนม ที่เกิดในแม่หมาช่วงให้นมลูก ซึ่งเกิดจากปริมาณแคลเซียมในเลือดน้อย จนทำให้ขยับตัวลำบาก, อาการแพ้, การติดเชื้อ และระคายเคือง ที่ทำให้สุนัขหายใจฟึดฟัดได้ ซึ่งหากพบอาการดังกล่าว ให้ปรึกษาสัตวแพทย์ทันที
อาการหายใจแรงในสุนัขอันตรายหรือเปล่า?
การสรุปว่าอาการหายใจแรงของสุนัขนั้นน่าเป็นกังวลหรือไม่ ให้ดูที่ช่วงอายุของสุนัข และลักษณะการหายใจดังนี้
อายุของสุนัขส่งผลต่อการหายใจ
ลูกสุนัขและสุนัขโตเต็มวัยจะมีจำนวนครั้งในการหายใจไม่เท่ากัน โดยสามารถสังเกตอาการหายใจแรงได้ดังนี้
อาการหายใจผิดปกติในลูกหมา
โดยทั่วไปลูกหมาจะหายใจเร็วกว่า และหัวใจเต้นแรงกว่าสุนัขโตเต็มไว โดยอาจหายใจ 15-40 ครั้งต่อนาที ซึ่งจะหายใจเร็วขึ้นอีกในขณะหลับ ขึ้นอยู่กับว่าน้องหมากำลังฝันถึงอะไร นี่มักจะเกิดในช่วง REM (rapid eye movement) ที่น้องหมาจะส่งเสียงร้องขึ้นมา หรือมีการขยับตัว นี่นับเป็นอาการปกติ อย่างไรก็ดี ลูกสุนัขจะมีอาการติดเชื้อและป่วยได้ง่าย ถ้าเจ้าของรู้สึกได้ว่าการหายใจของลูกหมานั้นผิดไปจากปกติ ก็ควรนำไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน
อาการหายใจผิดปกติในสุนัขโตเต็มวัย
สำหรับสุนัขสุขภาพแข็งแรง น้องหมาควรจะหายใจได้อย่างปกติ ไม่มีอาการหอบหายใจ โดยจะหายใจ 10-35 ครั้งต่อนาทีขึ้นอยู่กับขนาดตัว โดยเฉลี่ย 24 ครั้งต่อนาทีในช่วงพักผ่อน หากสุนัขแสดงอาการหายใจแรงในตอนกำลังนั่งๆ นอนๆ และมากกว่า 35 ครั้งต่อนาที นี่อาจแสดงถึงอาการป่วยที่รุนแรง
6 ลักษณะอาการหายใจแรงของน้องหมาที่อาจเป็นอันตราย
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น น้องหมาอาจมีอาการหายใจแรงได้เมื่อเจออากาศร้อน หรือกำลังเล่น เจ้าของไม่ต้องกังวลหากสุนัขหายใจแรงในกรณีดังกล่าว แต่ควรกังวลเมื่อน้องหมามีอาการหายใจแรงในสถานการณ์ดังนี้
1. สุนัขหายใจแรงขณะกำลังพักผ่อน
นี่เป็นหนึ่งในอาการที่อันตรายมากๆ อาจนำไปสู่อาการป่วยรุนแรงได้เลย ให้เจ้าของเฝ้าดูอาการน้องหมาอย่างใกล้ชิด หากสังเกตอาการแล้วน้องหมายังไม่ดีขึ้นก็ควรนำไปพบแพทย์
2. เหงือกของสุนัขมีสีซีดหรือม่วงร่วมด้วย
หากมีอาการนี้ ให้นำสุนัขไปพบสัตวแพทย์ทันที นี่คืออาการบ่งชี้ว่าน้องหมาไม่ได้รับออกซิเจนเพียงพอ และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
3. สุนัขหายใจหอบ แต่ไม่เปิดปากหรือเปิดปาก
ปกติสุนัขจะหายใจหอบแฮ่กๆ โดยเปิดปากออกมาเต็มที่เพื่อระบายความร้อน แต่หากน้องหมามีอาการข้างต้น ให้นำไปพบสัตวแพทย์ทันที
4. สุนัขไอและหายใจแรง
หากสุนัขไอและหายใจแรง นี่อาจเป็นสัญญาณของอาการหลอดลมอักเสบชนิดเรื้อรัง และอาการทางเดินระบบหายใจ
5. สุนัขของคุณเจ็บปวดมากๆ
หากน้องหมากำลังเจ็บปวด พวกเขาอาจจะพักผ่อนไม่พอ กำลังหิว และจะพยายามซ่อนตัวจากคุณ สุนัขจะมีอาการหางจุกตูด หูเกร็งหลบไปอยู่ด้านหลัง หากน้องหมามีอาการเหล่านี้ร่วมกับหายใจแรง ให้พาไปพบสัตวแพทย์ทันที
6. สุนัขส่งเสียงอื่นๆ โดยหายใจแรงร่วมด้วย
หากสุนัขมีเสียงออกจากจมูก, มีเสียงหวีดขณะหายใจ หรือทำเสียงโอ้กอ้าก นี่เป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นร่วมกับโรคทางเดินหายใจอย่างหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
วิธีรักษาอาการหายใจแรงในสุนัข
การรักษาอาการหายใจแรงในสุนัขนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค โดยเมื่อพบสัตวแพทย์ จะมีการซักประวัติ ตรวจอุณหภูมิ สอบถามถึงยาที่กิน ฟังเสียงหัวใจ และอาจต้องตรวจฉี่ ตรวจเลือด เอ็กซเรย์ปอดในบางราย เพื่อวินิจฉัยโรค โดยหากทราบว่าเป็นโรคอะไรแล้ว ให้ดูแลรักษาน้องหมาอย่างดีตามที่สัตวแพทย์แนะนำ ดังนี้
การรักษาทั่วไป
สำหรับอาการทั่วไป เช่น บาดเจ็บไม่รุนแรง สัตวแพทย์จะพิจารณาให้ยาแก้ปวด น้ำเกลือ และยาอื่นๆ เพื่อให้น้องหมากลับมาเป็นปกติได้เร็วที่สุด ที่สำคัญคือต้องให้น้องหมาพักผ่อนอย่างเพียงพอ
การรักษาอาการฮีทสโตรก
อาการฮีทสโตรกนับเป็นอาการรุนแรงถึงชีวิตที่ควรรีบปฐมพยาบาลน้องหมา โดยให้ย้ายสุนัขไปอยู่ในที่ร่ม ลมผ่าน ให้สุนัขดื่มน้ำ เลียน้ำแข็งเยอะๆ แต่ไม่ต้องบังคับ โดยเตรียมผ้าเย็นไว้ประคบทั่วอก คอ และหัวของสุนัข อย่าใช้สายยางฉีดน้ำน้องหมา เนื่องจากน้ำจากสายยางอาจจะร้อนจี๋ และทำให้น้องหมาร้อนกว่าเดิม ควรให้สุนัขค่อยๆ ปรับอุณหภูมิลงด้วยตัวเอง ซึ่งหลังจากอาการดีขึ้น ก็ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
การรักษาสำหรับสุนัขที่มีโรคระบบทางเดินหายใจ
เมื่อได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคทางเดินหายใจ สัตวแพทย์จะให้ยาตามความรุนแรงของโรค โดยน้องหมาจำเป็นต้องได้รับยาประเภท Corticosteroid และ/หรือ bronchodilators เพื่อช่วยให้หายใจได้ดีขึ้นและควบคุมอาการ นอกจากนี้น้องหมาอาจต้องได้รับออกซิเจนเพื่อประคองอาการและช่วยให้พวกเขามีออกซิเจนเพียงพอสำหรับหล่อเลี้ยงอวัยวะ
การรักษาสำหรับสุนัขที่มีอาการเครียดหรือวิตกกังวล
อาจต้องมีการรักษาพิเศษโดยนักปรับพฤติกรรมสุนัข
วิธีป้องกันอาการหายใจแรงในสุนัข
สามารถป้องกันอาการหายใจแรงได้หลายวิธี ตามวิธีป้องกันโรคต่างๆ ดังนี้
ป้องกันอาการฮีทสโตรก
ควรป้องกันอาการฮีทสโตรก โดยไม่นำสุนัขออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น อย่าทิ้งสุนัขไว้ในรถ และที่บ้านควรเตรียมน้ำกับพื้นที่ร่มไว้ให้สุนัขเสมอ
นำน้องหมาไปพบสัตวแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
อาการหลายๆ อย่างข้างต้นสามารถป้องกันได้ด้วยการตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในสุนัขสูงอายุ ซึ่งหากรู้เร็วว่าน้องหมามีโรคอะไร ก็จะทำให้สามารถป้องกันอาการป่วยได้อย่างทันท่วงที ไม่ต้องรอให้แสดงอาการรุนแรงออกมาก่อน
ทานอาหารที่มีประโยชน์และดูแลสุขภาพของน้องหมา
การดูแลให้น้องหมาได้ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมตามวัย ก็จะช่วยป้องกันโรคให้กับพวกเขาได้ โดยเฉพาะโรคอย่างหัวใจ และอาการแพ้ต่างๆ
เลือก JOMO ให้ดูแลสุขภาพของน้องหมา เพราะเราเลือกแหล่งโปรตีนหลักมาจากเนื้อแกะออสเตรเลีย โปรตีนถึง 23% ทำให้ได้โภชนาการที่มากกว่า ไม่มีส่วนผสมของ By-product ทำให้น้องหมาสุขภาพแข็งแรง ร่าเริง และยังช่วยลดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่นโรคกระดูกพรุน โรคอ้วน และโรคหัวใจได้ สั่งซื้อวันนี้ ส่งฟรีทั่วประเทศ
สรุปเรื่องสุนัขหายใจแรง
สุนัขหายใจแรงนั้นเป็นอาการที่เกิดได้ทุกเพศทุกวัย แต่สำหรับสุนัขหน้าสั้นจะมีอาการหายใจแรงได้ง่ายกว่าสุนัขพันธุ์อื่นๆ ซึ่งสาเหตุนั้นเกิดได้จากหลายอย่าง หลักๆ มักจะเกิดจากฮีทสโตรก ปัญหาระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ นอกจากนี้ก็อาจจะเกิดจากกลุ่มอาการคุชชิ่ง โลหิตจาง อาการบาดเจ็บ ผลข้างเคียงจากยา ฯลฯ สุนัขแต่ละวัยก็จะมีอาการหายใจแรงที่แตกต่างกัน สำหรับลูกสุนัขจะพิจารณาว่าหายใจแรงที่ 40 ครั้ง/นาที ส่วนสุนัขโตจะหายใจแรงที่ 35 ครั้ง/นาที นอกจากนี้ยังมีลักษณะอาการหายใจแรงที่น่าเป็นห่วงเช่น หายใจแรงขณะพักผ่อน, เหงือกสีซีดหรือม่วง, หายใจหอบแต่ไม่เปิดปาก, ไอร่วมกับหายใจแรง, สุนัขดูเจ็บปวด และสุนัขส่งเสียงอื่นขณะหายใจแรง เมื่อนำสุนัขไปพบสัตวแพทย์ ก็จะมีการซักถามอาการ รวมกับตรวจดูอาการของสุนัขเพื่อสรุปว่าเกิดจากโรคอะไร หลังจากนั้นจะมีการรักษาตามอาการที่เป็น เช่น อาการทั่วไป, อาการฮีทสโตรก, โรคระบบทางเดินหายใจ และโรคเครียดหรือวิตกกังวล อาการเหล่านี้อาจป้องกันไม่ได้ทั้งหมด แต่สำหรับอาการฮีทสโตรกก็สามารถป้องกันได้ด้วยการหลีกเลี่ยงอากาศร้อน รวมไปถึงสามารถนำน้องหมาไปพบสัตวแพทย์เป็นประจำและให้ทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อช่วยบำรุงสุขภาพ
เลือก JOMO [โจโม่] อาหารสุนัขเกรดพรีเมียมให้ดูแลสุนัขของคุณ เพราะเราให้ความสำคัญกับเรื่องของอาหารเป็นพิเศษ เราคัดสรรวัตถุดิบที่ดีเหมาะกับสุนัขที่แพ้เนื้อไก่ ไม่มี by-product และยังเสริมวิตามินและสารอาหารที่จำเป็นในการเสริมสร้างผิวหนังให้แข็งแรงอีกด้วย มีพรีไบโอติกส์ ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน เหมาะสำหรับสุนัขอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป เม็ดเล็กทานง่ายทุกสายพันธุ์ สินค้าส่งฟรีทั่วไทย มีบริการจัดส่งด่วนในกรุงเทพ
โดยปกติแล้ว สุนัขหายใจกี่ครั้งต่อนาที
ลูกสุนัขหายใจ 15-40 ครั้ง/นาที โดยอาจหายใจเร็วขึ้นขณะหลับ ส่วนสุนัขโตเต็มวัยจะหายใจ 10-35 ครั้ง/นาทีขึ้นอยู่กับขนาดตัว โดยเฉลี่ย 24 ครั้งต่อนาทีในช่วงพักผ่อน
สาเหตุที่สุนัขหายใจหอบแรง เกิดจากอะไร?
สาเหตุที่สุนัขหอบมักจะเกิดจากฮีทสโตรก ปัญหาระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ นอกจากนี้ก็อาจจะเกิดจากกลุ่มอาการคุชชิ่ง โลหิตจาง อาการบาดเจ็บ ผลข้างเคียงจากยา ฯลฯ
อาการฮีทสโตรกของสุนัข ส่งผลกับการหายใจของสุนัขหรือไม่?
สาเหตุที่มักทำให้สุนัขหายใจแรง โดยเฉพาะหลังสุนัขที่ใบหน้าสั้น น้องหมาจะมีอาการหายใจแรง ตาลอย อ่อนแรง หัวใจเต้นแรง น้ำลายไหล ชัก อาเจียน ท้องเสีย ตัวร้อน