ความหมายของ JOMO แท้จริงที่ภูฏาน

JOMO ไม่ใช่แค่การไม่ตามกระแส แต่เป็นการค้นพบความสุขที่เริ่มจากภายใน

ชื่อแบรนด์ JOMO ได้แรงบันดาลใจมาจากสุนัขพันธุ์ Tibetan Mastiff  ซึ่งใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย มีอิสระ และเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ในหมู่บ้านห่างไกลบนเทือกเขาหิมาลัย ที่ได้พบจากการเดินทางไปภูฏานของเรา

ประสบการณ์นี้ผนวกกับการดูแลเจ้ามอคค่า บีเกิ้ลที่เป็นโรคลมชักในครอบครัว ซึ่งทำให้เราได้พบว่า

• สัตว์เลี้ยงมีปัญหาสุขภาพมากมาย เช่นการแพ้อาหาร เป็นสิ่งที่เจ้าของมองมักไม่เห็น
• อาหารพรีเมียมในตลาด มีราคาสูงมาก ที่จะต้องใช้ดูแลสมาชิกในบ้านไปตลอด
  
  

นำมาสู่การก่อตั้งธุรกิจ JOMO Pet Food ที่ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงคุณภาพดี พรีเมียมที่สุด ในราคาที่เข้าถึงได้

โดยยึดหลักการของ JOMO คือ ความเรียบง่าย เป็นมิตร และมีความสุขอย่างพอดี

//ส่วนชื่อบริษัท ลิตเติ้ล พอส์ จำกัด นั้นเพราะมันน่ารักค่ะ ใครจะไม่ชอบเจ้ามือน้อยๆ ของสมาชิกบ้านเรากัน 🐾

JOMO ในความหมายแท้จริงที่เราได้สัมผัส คือการมีความสุขอย่างเรียบง่ายและสมบูรณ์ในตัวมันเอง คือการใช้ชีวิตแบบที่ความสุขเริ่มต้นจากข้างใน แล้วต่อเติมออกไปจนแสงนั้นแผ่กระจายทรงพลังอย่างเป็นมิตรกับผู้คน เพราะเราเชื่อว่าความสุขไม่ใช่สิ่งที่เราต้องยืดตัวไปไขว่คว้า แค่ต้องรู้จักวิธีปลูก รักษา และบ่มเพาะตามกาลเวลา จนเข้าใจได้ว่า แท้จริงแล้วเราไม่ได้กำลัง Missing Out หรือขาดอะไร ที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตที่เต็มเปี่ยมด้วยความสุขแบบพอเหมาะพอดีเลยแม้แต่นิดเดียว

แม้จะเคยได้ยินคำว่า JOMO ที่เป็น Buzzwords ในโลกอินเตอร์เน็ตมาหลายครา แต่ทว่าเราได้มาเข้าใกล้ความหมายที่แท้จริงยิ่งขึ้นบนยอดภูเขาหิมาลัยในภูฏาน ประเทศกำลังพัฒนาที่ผู้คน 93.6% บอกว่าตนเองมีความสุข

ข้อมูลอีกด้านบอกเราว่า GNH หรือ Gross National Happiness ที่ภูฏานใช้วัดความสุขนั้น นั้นเป็นเพียงผักชีโรยหน้า เพื่อปิดบังความยากจนและปัญหาอื่นในประเทศ ซึ่งคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในโลกปัจจุบันนั้น สิ่งของภายนอกที่จะช่วยให้เรามีชีวิตได้อย่างสะดวกสบาย หลายสิ่งอย่างก็จำเป็นต้องมีเงินตราเป็นของแลกเปลี่ยน สำหรับประเทศที่ GDP อยู่ในอันดับที่ 132 ของโลก นี่คงเป็นประเด็นที่จะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องต่อไป

แล้วความสุขมันคืออะไรกันแน่?

เราออกเดินทางไปภูฐานเป็นครั้งที่สอง มีอะไรบางอย่างที่ติดอยู่ในใจจากครั้งก่อน จนทำให้เราต้องกลับไปประสบกับสภาวการณ์นั้นอีกครั้ง แม้ว่าการเดินทางคนเดียวจะมีความหมายและไม่เคยโดดเดี่ยวอย่างแท้จริง แต่การออกไปสัมผัสโลกแบบที่เชื่อได้ว่า จะมีอีกสองมือที่คอยประคองกันไปอยู่เสมอเช่นในครั้งนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่โดดเด่นอยู่ในใจไม่ต่างกัน

หลังจากเดินทางกว่า 5 ชั่วโมงท่ามกลาง อากาศหนาวเหน็บ ผู้คนมากหน้าหลายตา และความยากลำบากที่ชัดเจนในทุกประสาทสัมผัส ที่นั่นเราก็ได้พบกับ เจ้า JOMO

JOMO คือสุนัข Tibetan Mastiff สีดำตัวเบิ้มขนฟู ที่ใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านอันห่างไกลท่ามกลางเทือกเขาหิมาลัย ที่นี่เจ้าหมาได้ช่วยเหลือผู้คนผ่านการทำงาน ได้วิ่งอย่างอิสระ และได้มีชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ แบบที่เราเชื่อว่าทุกสิ่งมีชีวิตต่างก็ต้องการ ไม่ว่าชีวิตนั้นจะถูกนักวิทยาศาสตร์จะจัดอยู่ในกลุ่มใดก็ตาม

เจ้า JOMO ตัวนี้เองที่เป็นต้นกำเนิดของชื่อ JOMO ธุรกิจครอบครัวของเราที่จะเกิดขึ้นในเวลาต่อมา ซึ่งบ่งบอกตัวตนของพวกเราได้เป็นอย่างดี - เป็นมิตร เรียบง่าย และมีความสุข

ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า และไม่รู้ว่าเรื่องบังเอิญนั้นมีอยู่จริงหรือไม่ แต่เหล่ามนุษย์บนภูเขาแห่งนี้ มนุษย์ที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ในบ้านที่ไม่ได้มีทีวีจอยักษ์ มือถือรุ่นล่าสุด หรือสระว่ายน้ำส่วนตัว กลับเป็นหนึ่งในมนุษย์ที่มีความสุขที่เราเคยค้นพบ

ความสุขที่เราเห็นนั้นไม่ใช่การหัวเราะตลอดเวลา แต่คือการใช้ชีวิตอย่างเนิบช้า สัมผัสประสบการณ์และผู้คนตรงหน้า ไปพร้อมกับการต่อสู้กับธรรมชาติและอุปสรรคความยากลำบากของชีวิตอย่างยอมรับความเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน

ภาพตรงนั้นทำให้เราเข้าใจ ว่าความสุขแบบ JOMO นั้นไม่ใช่แค่การเลิกเล่นโซเชียลหรือละตามเทรนด์ใหม่ แต่คือความพอใจ พอดี ดื่มด่ำกับความเต็มเปี่ยม ความ (ไม่) สมบูรณ์ที่มี และใช้ชีวิตให้มีความสุขอย่างเต็มที่ในทุกวัน

แน่นอนว่าชีวิตของเราไม่ได้อยู่ที่นั่น ผ่านไปแค่ไม่กี่นานวัน รู้ตัวอีกทีเราก็กลับมาอยู่ท่ามกลางเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยรถยนต์ ผู้คน และธุรกิจที่เราต้องดำเนินงานต่อ หนึ่งในเรื่องที่กระทบใจของครอบครัวเราที่สุด ก็คือเมื่อเจ้ามอคค่า บีเกิ้ลของครอบครัวเกิดประสบปัญหาสุขภาพ ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคลมชักซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาด เราเฝ้ามองอาการของมอคค่าแย่ลงเรื่อยๆ อาการชักมักเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืน และบางครั้งก็ดูเหมือนว่ามอคค่าได้หยุดหายใจไปแล้ว 

ตั้งแต่วันนั้น เราก็ต้องปรับเปลี่ยนเรื่องที่สำคัญที่สุด อย่างการทานอาหารไปอย่างสิ้นเชิงเพื่อคุมน้ำหนักตัวและปริมาณน้ำ ซึ่งมีส่วนช่วยให้อาการลมชักของน้องควบคุมได้

เราเริ่มตามหาอาหารเม็ดสุนัขที่ดีที่สุด แล้วก็พบว่าในตลาดนั้น ถ้าไม่มีมากมายหลายสูตรจนเลือกไม่ได้ ก็มีราคาแพงจนเกินไปที่บางครอบครัวที่จะใช้มันเป็นอาหารหลักดูแลเจ้าหมาไปตลอด

ประสบการณ์ทั้งหมดนี้ ทำให้เกิด JOMO อาหารเม็ดสุนัขที่เชื่อว่า เมื่อเจ้าหมาเฮลตี้ เจ้าของก็แฮปปี้ ความสุขเริ่มต้นที่อาหารสุนัขเม็ดเล็กเพียง 8 มม. ทานง่ายทุกสายพันธุ์เมื่ออายุ 1 ปีขึ้นไป เลือกสรรสูตรที่ดีที่สุดในราคาที่มีงบเหลือไปซื้อขนมมาสปอยล์เจ้าหมาได้อย่างไม่อึดอัดใจ

JOMO เข้าใจว่า บางครั้งเรามักจะชอบทานของที่อร่อยๆ มากกว่าของที่มีคุณค่าทางอาหาร พวกเราที่ JOMO ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เราจึงตั้งใจที่จะคัดเลือกวัตถุดิบและส่วนผสมต่างๆ ในอาหารของเรา เราใช้ส่วนผสมจากเนื้อสัตว์แท้ อาหารทะเล ข้าว มันหวาน และวิตามินต่างๆ มั่นใจได้เลยว่า อาหารของเราไม่มีส่วนผสมจากผลพลอยได้จากสัตว์ ปราศจากกลูเตน อีกทั้งยังอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย

คุณสมบัติทางโภชนาการของอาหารสัตว์เลี้ยง JOMO [โจโม่] ได้มีการพัฒนาขึ้นมา โดยอ้างอิงจากมาตรฐานของ AAFCO หรือสมาคมควบคุมอาหารสัตว์เลี้ยงของประเทศสหรัฐอเมริกา อุดมไปด้วยโอเมก้า 3&6 จากน้ำมันปลาแซลมอน ช่วยบำรุงผิวหนังและขนให้เงางาม ช่วยลดกลิ่น ช่วยลดการเกิดคราบน้ำตา แบบที่ลูกค้าของเราบอกว่าอยู่หมัดจนตกใจ และยังช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทอีกด้วย ที่สำคัญคือน้องหมาที่เคยกินยาก ก็เอร็ดอร่อยจนไม่ต้องเป็นกังวลอีกเลย

ทุกวันนี้ JOMO มีผลิตภัณฑ์สำหรับแมวด้วย และเราก็สร้างสรรค์ด้วยหลักการและความจริงใจแบบเดียวกัน

เรานึกถึงประสบการณ์ที่ภูฏานอยู่เสมอ และตั้งใจทำธุรกิจในแบบ JOMO ให้มากที่สุด เป็นมิตร เรียบง่าย ได้คุณภาพ ช่วยซัพพอร์ตให้เจ้าสัตว์เลี้ยงมีสุขภาพที่ดี เจ้านายจะได้สบายใจ มีเวลาและพลังใจไปใช้กับเรื่องสำคัญในชีวิตได้อย่างเต็มที่ นอกจากอาหารสุนัขที่เป็นผลิตภัณฑ์แรกของเราแล้ว นี่ยังรวมไปถึงขนมสุนัข อาหารแมว และขนมแมวที่เราภูมิใจเช่นกัน

เราหวังว่าประสบการณ์สัมผัสชีวิตแบบ JOMO ในโลกจริง และธุรกิจแบบ JOMO ของครอบครัวเรา จะเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่ช่วยให้คุณได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแบบไม่ต้องไขว่คว้า เรียบง่าย สบายใจ และพอดีในทุกวัน

ด้วยรัก

Noon Suaree

Co-founders of JOMO Pet Food