สรุปเรื่องอาหารที่แมวห้ามกิน
ด้วยนิสัยของแมวที่ชอบปีนป่าย ทำให้แมวมีโอกาสได้กินอาหารแปลกปลอมจากโต๊ะอาหารของคน โดยมีอาหารหลายอย่างที่แมวห้ามกิน เช่น หัวหอมและกระเทียม ของดิบ ช็อกโกแลตและคาเฟอีน อาหารหลายอย่างก็อาจจะส่งผลต่อสุขภาพของแมวจนอาจเสียชีวิต
หากเจ้าของพบว่าแมวมีอาการอ่อนเพลีย อาเจียน ท้องเสีย ชัก กระตุก หลังทานอาหารไป สงสัยว่าแมวเผลอไปกินอาหารอันตราย ให้ปรึกษาสัตวแพทย์ทันที
🐾
ให้น้องกินแต่อาหารแมว ที่คิดมาเพื่อแมวจริงๆ ดีที่สุด ที่ JOMO เราเลือกส่วนผสมที่อุดมด้วยคุณประโยชน์ ทั้งแซลมอน มันหวาน และพรีไบโอติกส์ ให้แมวเฮลตี้ และทาสแฮปปี้ง่ายๆ ในทุกวัน ลองดูอาหารแมวพรีเมียม
🐾
13 ของอันตรายที่แมวห้ามกิน อาจเสี่ยงชีวิต
อาหารที่แมวห้ามกินมีหลากหลายอย่าง สามารถดูได้จากลิสต์ด้านล่าง ดังนี้
- หัวหอมและกระเทียม
- ของดิบ (ไข่ดิบ เนื้อดิบ กระดูกดิบ)
- ช็อกโกแลตและคาเฟอีน
- แอลกอฮอล์
- นมและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม
- องุ่นและลูกเกด
- อาหารสุนัข
- ผลไม้รสเปรี้ยว
- มะพร้าว
- ถั่ว
- เกลือ
- ไซลิทอล
- ตับ

รายละเอียดอาหาร 13 อย่างที่แมวต้องเลี่ยง อาจเสี่ยงถึงตาย
หลังจากรู้ชนิดของอาหารที่แมวห้ามกินแล้ว เราจะมาเล่าถึงรายละเอียดว่าทำไมแมวถึงห้ามกินของเหล่านี้กัน
1. หัวหอมและกระเทียม
ที่แมวไม่ควรกินกระเทียม หัวหอม หอมแดง และ ต้นหอม ก็เพราะว่าเจ้าพืชตระกูลหอมจะไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงของแมว แล้วนำไปสู่อาการโลหิตจางได้ ซึ่งถึงแม้มันจะทำอันตรายได้ก็ต่อเมื่อกินในปริมาณมาก แต่ถ้าหากแมวเผลอไปกินผงซุปหัวหอม หรือผงกระเทียมซึ่งมีปริมาณพืชเหล่านี้อยู่อย่างเข้มข้น ก็อาจเกิดอันตรายได้อย่างเฉียบพลัน เมื่อแมวกินเข้าไปจะมีอาหารอ่อนเพลีย หมดแรง ไม่อยากอาหาร เหงือกม่วง และมีฉี่เป็นสีส้มหรือแดงเข้ม หากพบอาหารเหล่านี้ให้พาไปพบสัตวแพทย์ทันที
2. ของดิบ
แมวก็มีโอกาสเป็นโรคจากการได้รับเชื้อซาลโมเนลล่าและอีโคไลเช่นเดียวกับมนุษย์ ซึ่งเจ้าเชื้อโรคนี้มีมากในของดิบประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อดิบ ไข่ดิบ ปลาดิบ ฯลฯ ทำให้เป็นสาเหตุที่แมวไม่ควรกินของดิบทุกชนิด โดยอาการเมื่อแมวป่วยจะแตกต่างกันไป แต่มักทำให้แมวอาเจียน ท้องเสีย และอ่อนเพลีย ซึ่งเชื้อโรคเหล่านี้ก็สามารถติดต่อมายังคนได้ด้วย ทำให้คุณควรล้างมือทุกครั้งหลังเตรียมอาหารให้แมวและป้องกันไม่ให้แมวสามารถมากินของดิบต่าง ๆ ได้ ส่วนไข่ดิบนั้นมีเอนไซม์ที่จะไปสร้างปัญหาให้กับผิวหนังและขนแมว และสำหรับกระดูกดิบที่ไม่ควรกินเพราะว่าอาจติดคอ, ไปติดอยู่ในระบบทางเดินอาหาร หรืออาจทิ่มเหงือกได้
3. ช็อกโกแลตและคาเฟอีน
แมวไม่ควรกินช็อกโกแลตและคาเฟอีนเช่นเดียวกับสุนัข โดยในช็อกโกแลตมีสารเมทิลแซนทีนที่สามารถทำให้แมวอาเจียน คลื่นไส้ ตัวร้อน กล้ามเนื้อกระตุก หัวใจเต้นผิดจังหวะ ไม่สบายตัว กระหายน้ำ ไปจนถึงชักได้ ซึ่งผงโกโก้นับเป็นอาหารที่อันตรายที่สุดในบรรดาช็อกโกแลตทั้งหมด รองลงมาก็คือช็อกโกแลตและไวท์ช็อกโกแลต เจ้าสารนี้ก็ยังพบในเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอีกด้วย หากแมวมีอาการดังกล่าวให้พาไปพบสัตวแพทย์ทันที
4. แอลกอฮอล์
หากแมวเผลอกินแอลกอฮอล์เข้าไปจะเป็นอันตรายอย่างมาก เนื่องจากจะทำให้แมวอาเจียน ท้องเสีย กระตุก มึนงง มีปัญหาในการหายใจ โคม่า ไปจนถึงตายได้ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้แมวห้ามกินแอลกอฮอล์เด็ดขาด เช่นเดียวกับแป้งขนมปังดิบที่เมื่อกินเข้าไปจะไปขยายตัวและสร้างแอลกอฮอล์ขึ้นในท้องของแมวได้ หากพบว่าแมวกินแอลกอฮอล์หรือแป้งขนมปังเข้าไป ต่อให้เป็นเพียงปริมาณเล็กน้อย ก็ให้พาไปพบสัตวแพทย์ทันที อย่างไรก็ดีแมวสามารถกินขนมปังที่อบแล้วได้โดยไม่มีปัญหา
5. นมและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม
ถึงแม้จะเป็นภาพจำจากการ์ตูนหรือภาพยนตร์ว่าแมวต้องกินนม แต่ความจริงแล้วแมวก็มีปัญหาแพ้น้ำตาลแลคโตสเหมือนกัน ซึ่งจะทำให้ท้องเสียหรือปวดท้องได้ แมวส่วนใหญ่จะได้กินแลคโตสจากนมแม่ตอนที่เป็นลูกแมวเท่านั้น ทำให้แมวไม่สามารถย่อยแลคโตสได้ดีนัก โดยถึงแม้ลูกแมวบางตัวจะย่อยแลคโตสได้ แมวจึงไม่ควรกินนมอย่างอื่นนอกจากนมแม่เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดกับระบบย่อยอาหาร นี่รวมไปถึงผลิตภัณฑ์จากนมทั้งชีสและโยเกิร์ตด้วย
6. องุ่นและลูกเกด
ที่แมวห้ามกินองุ่นและลูกเกดเพราะหากได้กินแม้เพียงนิดเดียวก็อาจไม่สบายได้ หรือถ้าในกรณีที่รุนแรงก็อาจจะเกิดอาการไตวายได้เลย โดยหลังบริโภคเข้าไป 12 ชั่วโมง มักมีอาการอาเจียน และหลังบริโภค 24 ชั่วโมง จะมีอาการอ่อนเพลีย ท้องเสีย ไม่อยากอาหาร ปวดท้อง ฉี่น้อยลง ถ้าหากเจ้าของพบว่าแมวมีอาการอาเจียนและคึกผิดปกติ ให้เดาไว้ว่าอาจเกิดจากการกินองุ่น แต่โชคดีที่บางตัวก็อาจไม่มีอาการใด ๆ อย่างไรก็ดีควรเก็บองุ่นและลูกเกดให้ไกลจากแมวเพื่อป้องกันอันตราย
7. อาหารสุนัข
อาหารสุนัขอาจไม่ได้เป็นพิษต่อแมว แต่สุนัขกับแมวมีความต้องการสารอาหารที่ต่างกัน อาหารแมวควรจะมีวิตามินเอ ทอรีน โปรตีน มากกว่าสุนัข ซึ่งในอาหารสุนัขก็จะมีสารอาหารเหล่านี้น้อยมาก ทำให้หากเจ้าของเอาอาหารหมามาให้แมวกินบ่อย ๆ น้องเหมียวจะขาดสารอาหาร หากขาดทอรีนมาก ๆ อาจเกิดโรคหัวใจ ปัญหาสายตา และปัญหาสุขภาพฟันได้ แมวจึงไม่ควรกินอาหารสุนัขหากไม่จำเป็น
มีทอรีน ดูแลให้ตาดี หัวใจแข็งแรงกับ JOMO

8. ผลไม้รสเปรี้ยว
ผลไม้รสเปรี้ยวไม่ว่าจะเป็นเลม่อน มะนาว ส้ม ส้มคลีเมนไทน์ หรือเกรปฟรุ๊ตล้วนมีกรดซิตริกและน้ำมันหอมระเหยซึ่งเป็นอันตรายต่อแมว โดยสารเหล่านี้อยู่ในทุกส่วนของผลไม้ไม่ว่าจะเป็นก้าน ใบ เปลือก ผลและเมล็ด ทำให้แมวไม่ควรกินผลไม้รสเปรี้ยวทุกชนิด อย่างไรก็ดีหากกินไปเพียงเล็กน้อยก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้ากินเป็นจำนวนมากก็จะทำให้ท้องเสีย อาเจียนและมีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาทส่วนกลาง
9. มะพร้าว
แมวห้ามกินมะพร้าวเพราะน้ำมะพร้าวและเนื้อมะพร้าวจะไปสร้างปัญหาให้กับระบบย่อยอาหารในสัตว์เลี้ยง โดยหากบริโภคไปเล็กน้อยก็ไม่มีปัญหา แต่น้ำมะพร้าวมีโพแทสเซียมสูงมากจนเป็นอันตราย ส่วนน้ำมันมะพร้าวนั้นช่วยรักษาปัญหาผิวหนังของแมวได้
10. ถั่ว
ถั่วแมคคาเดเมียเป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยง ส่วนถั่วชนิดอื่น ๆ อย่างอัลมอนด์ พีแคน วอลนัทจะมีน้ำมันและไขมันมากจนไปสร้างปัญหาในระบบทางเดินอาหาร และทำให้เกิดอาการตับอ่อนอักเสบในแมวได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงไม่ให้แมวกินถั่วทุกชนิด
11. เกลือ
ที่ไม่ให้แมวกินเกลือหรืออาหารรสเค็มก็เป็นเพราะหากแมวได้รับเกลือ หรืออาหารที่มีรสเค็มในปริมาณมาก ก็อาจทำให้อาเจียน ท้องเสีย กระตุก ชัก จนถึงเสียชีวิตได้
🐾
โซเดียมมักซุกซ่อนอยู่ในวัตถุดิบที่แมวต้องกินทุกวัน อาหารแมวพรีเมียม JOMO จึงไม่เติมเกลือ ไม่เค็ม ดีต่อไตน้อง ลองดูอาหารแมวไม่เค็ม ไม่เติมเกลือ
🐾
12. ไซลิทอล
ไซลิทอลเป็นสารให้ความหวานที่คุ้นเคยกันดีในหมากฝรั่งและลูกอม ซึ่งหากน้องแมวกินเข้าไปก็อาจจะอาเจียน อ่อนเพลีย และตับวายได้ ดังนั้นแมวเลยห้ามกินสารให้ความหวานอย่างไซลิทอล
13. ตับ
แมวสามารถกินตับในปริมาณน้อย ๆ ได้ แต่แมวไม่ควรกินตับในปริมาณมาก หากกินเยอะเกินไปจะเกิดอาการวิตามิน A เป็นพิษได้ นี่คืออาการอันตรายที่ส่งผลต่อกระดูกของแมว โดยอาการประกอบไปด้วยกระดูกผิดรูป กระดูกงอก และกระดูกพรุนได้ นอกจากนี้ยังอาจส่งผลรุนแรงจนอาจเสียชีวิตเลย
🐾
เลือก JOMO Treats for Cats ให้ดูแลสุขภาพน้องแมวแบบปลอดภัย มั่นใจได้ อุดมไปด้วยสารอาหารสำหรับบำรุงสุขภาพ ทั้งเนื้อปลา ที่มาพร้อมกรดไขมันที่จำเป็น ทอรีนที่ช่วยดูแลการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจและระบบภูมิคุ้มกัน เติมคอลลาเจนช่วยเสริมสร้างกระดูก ข้อ ผิวหนังและขน ดูขนมแมวพรีเมียม
🐾

เคล็ดลับป้องกันไม่ให้แมวกินของต้องห้าม
สุขภาพที่ดีของแมวก็เกิดมาจากการดูแลที่ดีของเหล่าทาส ไม่ว่าจะเป็นการให้อาหารที่สารอาหารครบถ้วน รวมไปถึงการเก็บอาหารและของอันตรายออกไปให้ห่างไกลจากแมว ซึ่งมีเคล็ดลับในการป้องกันความซนของเจ้าเหมียวดังนี้
- เก็บอาหารให้ห่างจากระยะที่แมวจะปีนมาได้ หรือเก็บเข้าตู้ให้มิดชิด ปิดห้องครัวและตู้กับข้าวตลอดเวลา
- อย่าปล่อยให้แมวมาเดินเพ่นพ่านบริเวณที่คุณกำลังทำอาหารหรือกินอาหาร ฝึกให้เป็นนิสัย และปิดประตูห้องครัว ห้องอาหารทุกครั้ง
- อย่าเอาอาหารคนให้แมว
- หากคุณสงสัยว่าแมวอาจกินอาหารอะไรที่ไม่ดีต่อสุขภาพหรือเป็นอันตรายดังที่กล่าวไปด้านบน ให้นำไปพบสัตวแพทย์ทันที ซึ่งถึงแม้อาหารบางชนิดอาจแค่ทำให้น้องแมวปวดท้อง ไม่สบายท้อง แต่บางชนิดก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตของเหมียวได้เลย ให้ปรึกษาสัตวแพทย์ทุกครั้งหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอาหาร
🐾
เลือก JOMO Treats for Cats ปลอดภัย ทำจากปลาล้วนๆ อร่อยถูกปากเหมียว ดีต่อสุขภาพ สั่งผ่านเว็บ JOMO ครั้งแรกรับ JOMO Points มูลค่า 50฿ ดูขนมแมวพรีเมียม
🐾
แมวกินข้าวสวยได้ไหม?
แมวสามารถกินข้าวสวยได้ โดยข้าวเป็นหนึ่งในส่วนผสมของอาหารแมวหลายยี่ห้อ และสัตวแพทย์ก็อาจแนะนำให้แมวกินข้าวหากแมวกำลังมีปัญหาในระบบย่อยอาหาร อย่างไรก็ดีข้าวไม่ได้มีสารอาหารที่ครบถ้วน แมวควรกินอาหารอื่นด้วยเพื่อให้ได้รับสารอาหารที่พอดีในแต่ละวัน
แมวกินช็อกโกแลตได้ไหม?
แมวกินช็อกโกแลตไม่ได้ เนื่องจากในช็อกโกแลตมีสารเมทิลแซนทีนซึ่งหากแมวกินเข้าไปจะทำให้อาเจียน คลื่นไส้ ตัวร้อน กล้ามเนื้อกระตุก หัวใจเต้นผิดจังหวะ ไม่สบายตัว กระหายน้ำ หรือถ้าอาการรุนแรงก็อาจชักได้
แมวกินนมได้ไหม?
แมวไม่ควรกินนม เนื่องจากแมวก็มีปัญหาแพ้น้ำตาลแลคโตสได้ ซึ่งถ้าแมวตัวไหนแพ้ก็จะมีอาการท้องเสียและปวดท้อง
แมวกินโยเกิร์ตได้ไหม?
แมวกินโยเกิร์ตได้ แต่ไม่ควร เนื่องจากน้องแมวบางตัวอาจมีอาการแพ้น้ำตาลแลคโตส จนทำให้กินเข้าไปแล้วท้องเสียหรือปวดท้องได้ อย่างไรก็ดีหากมั่นใจว่าน้องแมวไม่แพ้ ก็สามารถให้กินโยเกิร์ตรสธรรมชาติได้ แต่ต้องระวังอย่าให้มีส่วนผสมเหล่านี้ ไซลิทอล องุ่น ลูกเกด ช็อกโกแลต ผลไม้รสเปรี้ยว และมะพร้าว
แมวกินข้าวโพดได้ไหม?
แมวกินข้าวโพดได้ แต่ในข้าวโพดไม่ได้มีสารอาหารที่แมวต้องการ และเมื่อกินข้าวโพดเข้าไปจะไปทำให้แมวอิ่มจนไม่อยากกินอาหารอย่างอื่น ดังนั้นหากจะป้อนข้าวโพดให้แมว ก็ควรให้ในปริมาณน้อย และหันมาให้ขนมที่ทำจากเนื้อแทนจะมีประโยชน์มากกว่า
แมวกินไข่ได้ไหม?
แมวกินไข่สุกได้ โดยสามารถใช้ไข่มาช่วยเพิ่มความอยากอาหารให้แมวเบื่ออาหารได้ด้วย แต่ห้ามให้ไข่ดิบโดยเด็ดขาด เนื่องจากอาจมีเชื้อซาลโมเนลลา และมีเอนไซม์ที่จะสร้างปัญหาต่อผิวหนังได้
แมวกินอาหารหมาได้ไหม?
แมวกินอาหารหมาได้ แต่ไม่ควร เนื่องจากในอาหารหมามีส่วนผสมและสารอาหารที่ไม่เหมือนกับในอาหารแมว หากให้อาหารหมาแทนอาหารแมวบ่อย ๆ น้องเหมียวจะขาดสารอาหาร ซึ่งหากขาดทอรีนมาก ๆ อาจเกิดโรคหัวใจ ปัญหาสายตา และปัญหาสุขภาพฟันได้
แมวห้ามกินผักอะไร?
ผักที่แมวห้ามกินคือหอม กระเทียม เนื่องจากพืชตระกูลหอมจะไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงของแมว แล้วนำไปสู่อาการโลหิตจาง ยิ่งหากแมวเผลอไปกินผงซุปหัวหอมหรือผงกระเทียมซึ่งมีปริมาณพืชเหล่านี้อยู่อย่างเข้มข้น ก็อาจเกิดอันตรายได้อย่างเฉียบพลัน
แมวห้ามกินผลไม้อะไร?
แมวห้ามกินผลไม้หลายชนิด เช่น องุ่น ผลไม้รสเปรี้ยวและมะพร้าว
แมวห้ามกินยาอะไร?
แมวห้ามกินยาทุกชนิดที่ไม่ได้สั่งโดยสัตวแพทย์ หากแมวมีอาการป่วยให้ปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนทุกครั้ง ห้ามซื้อยาให้กินเอง
แมวห้ามกินถั่วเพราะอะไร?
ที่แมวห้ามกินถั่วเพราะถั่วแมคคาเดเมียเป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยง ส่วนถั่วชนิดอื่น ๆ อย่างอัลมอนด์ พีแคน วอลนัทจะมีน้ำมันและไขมันมากจนไปสร้างปัญหาในระบบทางเดินอาหาร และทำให้เกิดอาการตับอ่อนอักเสบในแมวได้
แมวห้ามกินอาหารคนใช่ไหม?
ใช่ แมวห้ามกินอาหารคนทุกชนิด เนื่องจากในอาหารคนมีหลายอย่างที่เป็นอันตรายต่อชีวิตแมว และขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อแมว
ทำไมแมวห้ามกินตับ?
แมวห้ามกินตับเพราะหากแมวกินตับเยอะเกินไปจะเกิดอาการวิตามิน A เป็นพิษได้ นี่คืออาการอันตรายที่ส่งผลต่อกระดูกของแมว โดยอาการประกอบไปด้วยกระดูกผิดรูป กระดูกงอก กระดูกพรุน และอาจส่งผลรุนแรงจนอาจเสียชีวิตเลย