สรุปเรื่องพรีไบโอติกส์ ตัวช่วยบำรุงสุขภาพลำไส้น้องหมา
พรีไบโอติกส์คือใยอาหารที่ช่วยบำรุงสุขภาพลำไส้ ไม่ใช่แค่คนที่ต้องการพรีไบโอติกส์ แต่สุนัขก็ต้องการเช่นกัน ซึ่งเมื่อสุนัขทานใยอาหารที่มีประโยชน์นี้เข้าไป พรีไบโอติกส์จะทำหน้าที่เป็นอาหารให้แบคทีเรียดี (โพรไบโอติกส์) ในลำไส้ ให้เกิดความสมดุลมากขึ้น มีประโยชน์หลักๆ ดังนี้:
- ช่วยการย่อยและการดูดซึมสารอาหาร
- ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด
- ลดปัญหาโรคลำไส้
- เสริมความแข็งแรงของกระดูก
- เสริมภูมิคุ้มกัน
- ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง
สำหรับสุนัข แหล่งพรีไบโอติกส์ที่ปลอดภัยได้แก่ มันหวาน โอ๊ตมีล หน่อไม้ฝรั่งนึ่ง แอปเปิ้ล และฟักทองบด การเลือกอาหารเม็ดสุนัขที่มีพรีไบโอติกส์ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้สุนัขได้สารอาหารครบถ้วน ช่วยบำรุงสุขภาพได้ง่ายๆ ในทุกวัน
อาหารสุนัข JOMO อุดมไปด้วยพรีไบโอติกส์ เสริมของดีอีกเพียบ
อะไรคือพรีไบโอติกส์?
พรีไบโอติกส์ (Prebiotics) คือใยอาหาร (dietary fiber) ที่ช่วยในการบำรุงสุขภาพลำไส้ของสุนัข โดยจะไปช่วยสนับสนุนการเติบโตของแบคทีเรียดีในลำไส้ เพื่อป้องกันไม่ให้แบคทีเรียไม่ดีมาทำร้ายสุขภาพลำไส้และทำให้ป่วย
สำหรับพรีไบโอติกส์อยู่ในหมวดใยอาหารที่ละลายน้ำได้ โดยจะถูกหมัก และกลายเป็นอาหารให้กับแบคทีเรียในกลุ่มโพรไบโอติกส์ในลำไส้ใหญ่เช่นแลคโตบาซิลลัส ยิ่งกินพรีไบโอติกส์มากแค่ไหน โพรไบโอติกส์ในลำไส้ก็ยิ่งแข็งแรง ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงตามไปด้วย
6 ความสำคัญของพรีไบโอติกส์
สุขภาพที่ดีเริ่มต้นที่ลำไส้ ซึ่ง 80% ของระบบภูมิคุ้มกันของสุนัขนั้นขึ้นอยู่กับสุขภาพของลำไส้เช่นเดียวกัน หากลำไส้สุขภาพดี น้องหมาก็จะมีความสุข ไขข้อแข็งแรง และมีแรงในการใช้ชีวิตประจำวัน
ซึ่งพรีไบโอติกส์มีข้อดีมากมายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น
- เร่งกระบวนการหมักในทางเดินอาหาร: พรีไบโอติกส์ช่วยหมักอาหารในลำไส้สุนัข และช่วยในกระบวนการย่อย ยิ่งอาหารถูกย่อยได้ละเอียดแค่ไหน สุนัขก็ยิ่งได้รับสารอาหารมากขึ้นเท่านั้น
- ช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น: เมื่อทานพรีไบโอติกส์เข้าไป จะช่วยปรับสมดุลของค่า pH และจุลินทรีย์ในลำไส้สุนัข ส่งผลให้สามารถดูดซึมวิตามินและแร่ธาตุได้ดีขึ้น
- ป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดพุ่งสูง: เนื่องจากพรีไบโอติกส์เป็นไฟเบอร์ จึงช่วยในการชะลอการย่อยอาหารและการดูดซึมอาหาร เมื่ออาหารถูกย่อยอย่างสมบูรณ์ในลำไส้ก่อน น้ำตาลก็จะไม่เข้าสู่กระแสเลือดเร็วเกินไป
- ลดอาการป่วยจากโรคลำไส้: จุลินทรีย์ที่แข็งแรงในลำไส้สุนัขนั้นจำเป็นอย่างยิ่งในการบำรุงสุขภาพลำไส้ พรีไบโอติกส์จะเข้าไปช่วยดูแลผนังลำไส้ ลดปัญหาในการย่อยอาหาร และทำให้ดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้ัน
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกระดูก: มีผลวิจัยชี้ว่าพรีไบโอติกส์มีผลดีต่อความแข็งแรงของกระดูก เนื่องจากไปช่วยทำให้สุนัขสามารถดูดซึมแคลเซียมจากอาหารได้ดีขึ้น ทำให้ช่วยบำรุงมวลกระดูกและความแข็งแรงของกระดูก
- ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับลูกสุนัข: ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง และทำให้ร่างกายตอบสนองต่อวัคซีนได้ดีขึ้น
อยากให้สุนัขกินพรีไบโอติกส์ต้องเริ่มจากไหน
พรีไบโอติกส์ในธรรมชาติหลายชนิดเป็นสิ่งที่สุนัขไม่ค่อยชอบกิน และไม่ควรกิน อย่างกล้วย, มะเขือเทศ, หอมใหญ่ (เป็นพิษต่อสุนัข), กระเทียม (เป็นพิษต่อสุนัข), โกโก้ (ไม่ควรกินอย่างยิ่ง)
สุนัขจึงจำเป็นต้องได้รับพรีไบโอติกส์จากอาหารเสริมเป็นหลัก หรือจากอาหารบางชนิดที่ควรให้สุนัขกินในปริมาณที่เหมาะสม เช่น
- มันหวาน
- โอ๊ตมีล
- หน่อไม้ฝรั่งนึ่ง (หากกินสด สุนัขอาจท้องอืดหรือท้องเสีย)
- แอปเปิ้ลในปริมาณไม่มาก
- ฟักทองบด (เมื่อผสมกับอาหารจะช่วยลดอาการปวดท้องหรืออาการผิดปกติในระบบทางเดินอาหารที่อาจเกิดขึ้นได้)
- บาร์เลย์
- เมล็ดแฟลกซ์
JOMO คัดสรรพรีไบโอติกส์สำคัญจากธรรมชาติถึง 3 ตัวมาอยู่ในอาหารเม็ดสุนัข JOMO เพื่อช่วยเพิ่มจำนวนเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในระบบทางเดินอาหาร สร้างสมดุลในลำไส้สุนัข และยังส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายของสุนัขแข็งแรงขึ้น เจ้าหมาเฮลตี้ เจ้านายก็แฮปปี้
อาหารสุนัขพรีเมียม JOMO มีพรีไบโอติกส์ที่สำคัญ

ประโยชน์ของพรีไบโอติกส์แต่ละแบบในสุนัข
ปัจจุบันมีพรีไบโอติกส์ที่ใช้เป็นอาหารเสริมอยู่หลากหลายตัว แต่ที่เป็นที่นิยมหลัก ๆ คือ แมนแนนโอลิโกแซคคาไรด์ (MOS), ฟรุกโตโอลิโกแซคคาไรด์ (FOS) และเบต้า-กลูแคน (Beta-Glucans) ซึ่งวันนี้เราชวนมารู้จักสามสหายนี้กัน
โอลิโกแซคคาร์ไรด์
โอลิโกแซคคาร์ไรด์ได้มาจากพืช สามารถละลายน้ำได้ เมื่อกินเข้าไปจะเดินทางผ่านระบบทางเดินอาหารโดยไม่ถูกย่อย ทำให้อิ่มนาน ช่วยให้สุนัขไม่กินเยอะเกินไป หลังจากนั้นจะไปถูกย่อยที่ลำไส้ใหญ่เพื่อเป็นอาหารให้กับแบคทีเรียดีที่มีประโยชน์ต่อลำไส้
- ช่วยเสริมพัฒนาการทางสมองในลูกสุนัขและเสริมการทำงานของระบบประสาท
- กระตุ้นการสร้างแบคทีเรียดีในลำไส้
โอลิโกแซคคาร์ไรด์แบ่งเป็นประเภทย่อยได้อีก เช่น แมนแนนโอลิโกแซคคาไรด์ (MOS) และ ฟรุกโตโอลิโกแซคคาไรด์ (FOS)
6 ประโยชน์ของแมนแนนโอลิโกแซคคาไรด์ (MOS)
MOS คือโอลิโกแซคคาไรด์ชนิดหนึ่ง สกัดจากได้เซลล์ของยีสต์ โดยจะช่วยสร้างแบคทีเรียที่ผลิตกรดแลคติค (แบคทีเรียที่หมักน้ำตาลเป็นกรดแลคติก) และบิฟิโดแบคทีเรีย (โพรไบโอติกส์ที่เสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน) ในลำไส้ โดย MOS มีประโยชน์มากมายอย่าง
- ช่วยรักษาสมดุลของจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร โดย MOS ช่วยป้องกันไม่ให้แบคทีเรียก่อโรคอย่างอีโคไล (E. coli) และซาลโมเนลลา (Salmonella) เข้าสู่ผนังลำไส้และเข้าสู่ร่างกายได้
- ลดการติดเชื้อในลำไส้ เนื่องจากช่วยลดการเพิ่มประชากรของแบคทีเรีย
- ช่วยผลิตกรดไขมันสายสั้น (short-chain fatty acids) ซึ่งเป็นตัวช่วยทำให้ค่า pH ในลำไส้ลดลง เมื่อลำไส้มีความเป็นกรดมากขึ้นก็จะทำให้แบคทีเรียก่อโรคเติบโตได้ยาก นอกจากนี้กรดไขมันสายสั้นก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน อ้วนลงพุง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคมะเร็ง ทั้งยังช่วยในการรักษาการอักเสบในระดับเซลล์
- ช่วยกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกัน ที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายตอบโต้กับอาการติดเชื้อและโรคต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
- ช่วยรักษาอาการท้องเสีย และลดอาการท้องเสียที่เกิดจากการทานยาปฏิชีวนะ
- ช่วยลดอาการผิดปกติที่เกิดจากโรคผิดปกติทางการเผาผลาญ (Metabolic Syndrome) ช่วยควบคุมน้ำหนัก, ลดไขมันในเลือด และลดภาวะดื้ออินซูลิน

6 คุณค่า ฟรุกโตโอลิโกแซคคาไรด์ (FOS)
FOS จัดเป็นโอลิโกแซคคาร์ไรด์ชนิดหนึ่ง ประกอบไปด้วยน้ำตาลฟรักโทสและน้ำตาลกลูโคส สกัดมาจากสมุนไพรชิคโครี กล้วย อะกาเว กระเทียม หัวหอม หน่อไม้ฝรั่ง ธัญพืชอย่างบาร์เลย์และข้าวสาลี และอื่น ๆ โดยมีคุณประโยชน์มากมาย
- นิยมใช้เป็นน้ำตาลทางเลือกเนื่องจากมีความหวานเล็กน้อย แคลอรี่ต่ำ แต่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ ทำให้ไม่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด
- ช่วยลดความเข้มข้นของน้ำตาลในเลือด (fasting blood glucose), ลดระดับคอเลสเตอรอล และไขมัน LDL
- ช่วยลดค่าไขมันในร่างกายและมีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนัก
- ลดกลิ่นเหม็น ขับถ่ายเป็นก้อน ช่วยลดแอมโมเนียในอุจจาระสุนัข ดูแลลำไส้ให้สามารถย่อยเอาสารอาหารต่าง ๆ ไปใช้ได้ดีขึ้น แบคทีเรียดีที่เพิ่มขึ้น ยังจะช่วยป้องกันแบคทีเรียไม่ดีมาก่อให้เกิดโรคอย่างท้องเสียและอาหารเป็นพิษ
- ช่วยป้องกันอาการท้องผูก เนื่องจากเป็นไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้
- ช่วยบำรุงรักษากระดูกและข้อ เนื่องจากทำให้สุนัขสามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น
8 ความสำคัญของเบต้า-กลูแคน (Beta-Glucans)
เบต้า-กลูแคน คือ ไฟเบอร์ เป็นสารสกัดจากผนังเซลล์ของแบคทีเรีย, เห็ดรา, ยีสต์, สาหร่าย, เห็ด และพืชบางชนิดอย่างข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ ข้าวไรย์ โดยมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย
- ช่วยลดการดูดซับคอเลสเตอรอลจากอาหาร ทำให้ลดคอเลสเตอรอลในเลือด, ลดไขมันไม่ดี และลดโอกาสเกิดโรคหัวใจ
- ลดการอักเสบ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยควบคุมระดับอนุมูลิสระ
- ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันด้วยการสร้างสารเคมีที่ช่วยต้านการติดเชื้อ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานอย่างสมดุล กระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว โดยจะไปช่วยกำจัดเชื้อโรคและเซลล์แปลกปลอม นี่ยังจะช่วยลดโอกาสเกิดโรคมะเร็งอีกด้วย
- ลดการเกิดโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังและโรคเบาหวาน เนื่องจากช่วยปรับสมดุลของระดับอินซูลินและคอเลสเตอรอล ช่วยลดระดับกลูโคสในเลือด และช่วยลดการดูดซึมน้ำตาลเข้าเส้นเลือด
- ช่วยฟื้นฟูร่างกายจากการอักเสบต่าง ๆ รวมไปถึงการอักเสบของระบบประสาท ซึ่งช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์
- ช่วยควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากลดความเร็วในการย่อยอาหาร ช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น
- เสริมสร้างสุขภาพลำไส้ ช่วยคงความสมดุลในการทำงานของลำไส้
- ช่วยรักษาแผล และช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
อย่างไรก็ดี หากบริโภคเบต้า-กลูแคนมากเกินไป ก็อาจส่งผลให้เกิดปัญหาในการย่อยอาหารอย่างคลื่นไส้, ท้องอืด หรือท้องเสีย โดยเฉพาะหากไม่ชินกับการบริโภคไฟเบอร์ในปริมาณมาก
🐾
นอกจากพรีไบโอติกส์ที่ช่วยควบคุมการทำงานของลำไส้เจ้าหมาในสัดส่วนที่ดี ใน JOMO Dog Food ยังมียัคคา สารสกัดจากพืชที่ช่วยบำรุงลำไส้ ลดกลิ่นปาก อุจจาระ ปัสสาวะ และกลิ่นตัวสุนัข รวมไปถึงลดคราบน้ำตา เมื่อนำส่วนผสมอุดมคุณประโยชน์มาใส่ในอาหารสุนัข ก็ช่วยลดปัญหากลิ่นเหม็นในบ้านได้เป็นอย่างดี
สั่งซื้ออาหารเม็ดสุนัข JOMO มาดูแลลำไส้ สุขภาพดีจากภายในวันนี้
🐾
พรีไบโอติกส์ กับ โพรไบโอติกส์ต่างกันยังไง?
พูดง่ายๆ โพรไบโอติกส์คือแบคทีเรีย ส่วนพรีไบโอติกส์คืออาการของแบคทีเรียที่ดี
แล้วอะไรคือโพรไบโอติกส์?
โพรไบโอติกส์ (Probiotics) คือจุลินทรีย์ที่มีชีวิตชนิดหนึ่ง ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มจุลินทรีย์ดี ถือเป็นจุลินทรีย์ประจำถิ่น (Normal Flora) ในทางเดินอาหารที่สามารถรับประทานเข้าไปเพิ่มได้ โดยโพรไบโอติกส์อยู่ในอาหารอย่างโยเกิร์ต นมเปรี้ยว กิมจิ มิโสะ
ร่างกายเรามีโพรไบโอติกส์เป็นแบคทีเรียที่ดีอยู่แล้ว แต่หากมีการเปลี่ยนแปลง เช่น กินยาบางอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ก็อาจจะทำให้แบคทีเรียไม่สมดุล จนเกิดปัญหาลำไส้ การทานพรีไบโอติกส์เข้าไปเป็นอาหารให้โพรไบโอติกส์ จึงช่วยสร้างความสมดุลของแบคทีเรียที่ดีให้กลับมาได้
สุนัขมีปริมาณจุลินทรีย์ในลำไส้น้อยเกินไป จะส่งผลอย่างไร?
ปริมาณของโพรไบโอติกส์ (จุลินทรีย์) ในลำไส้จะบ่งบอกถึงสุขภาพของลำไส้สุนัข หากสุนัขมีปริมาณจุลินทรีย์ในลำไส้น้อยเกินไป ก็จะส่งผลให้มีปัญหาผิวหนังและขน, ติดเชื้อในหูได้ง่าย, มีปัญหาในระบบทางเดินอาหาร เช่นท้องเสีย ถ่ายเหลว ขับถ่ายไม่สม่ำเสมอ
นอกจากนี้ยังทำให้มีกลิ่นปาก อุจจาระ ปัสสาวะ มีกลิ่นเหม็น, แพ้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นแพ้อาหาร แพ้อากาศ, ติดเชื้อปรสิตในลำไส้ และอาเจียนบ่อย
พรีไบโอติกส์อยู่ในอาหารอะไรบ้าง?
พรีไบโอติกส์มีลักษณะเฉพาะคือละลายน้ำได้ และจะพองตัวกลายเป็นเจลเมื่ออยู่ในลำไส้ ทำให้ลำไส้ย่อยอาหารและดูดซึมช้าลง ส่งผลให้อิ่มนานขึ้นและควบคุมน้ำหนักได้ดีขึ้น โดยพบในธัญพืชที่ขัดสีน้อย ถั่วเมล็ดแห้งบางชนิด ผลไม้ เช่น ส้ม ฝรั่ง แอปเปิล ลูกพรุนและสตรอว์เบอร์รี